วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

190 วันสุดท้าย ก่อนสิ้นสุดชีวิตการเป็นลูกจ้างงานประจำ 10 ปี

โพสนี้ ผมอยากให้มันเป็นการเริ่มต้นสำหรับตัวผมเอง

ที่ทำงานในบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีพนักงานร่วม 5000 คน ในนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง

ผมทำงานที่นี่ได้ 10 ปีแล้วครับผม

ยาวนานมากๆ สำหรับการจะเล่าให้ใครสักคนฟัง
แต่พอมองย้อนหลังกลับไป มันกลายเป็นเหมือนความฝันตื่นหนึ่งเท่านั้น สำหรับอดีตตลอด 10 ปีนี้

ผมเริ่มงานที่นี่ตั้งแต่ประมาณกลางปี 2005

และสิ้นปีนี้ 2015 ก็จะครบกำหนด 10 ปีครึ่งของการทำงานที่นี่พอดีครับ

จริงๆ ผมก็คิดไว้สักพักแล้วว่าจะลาออก แผนตอนแรกคือปลายปีหน้า รับโบนัสปลายปีแล้วก็จะลาออกมาช่วยกิจการร้านผ้าม่านที่แฟนทำอยู่ตอนนี้เลย

แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ประกอบกับความขี้เกียจด้วย อิ่มตัวด้วย
ผมจึงรู้สึกว่า ไม่อยากรอนานขนาดนั้น

เลยคุยกับแฟน เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆที่ผมมีอยู่ บวกกับของแฟนที่เป็นอยู่ปัจจุบัน
ก็ได้ข้อสรุปว่า

ผมควรจะลาออกตั้งแต่ปลายปีนี้เลย

ซึ่ง แม้จะลาออกเฉยๆนั้น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมากมายเท่าไหร่ เพราะผมพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้างพอสมควร แต่ติดที่ค่าใช้จ่ายประจำจากหนี้บ้านและรถเท่านั้น ซึ่งจริงๆก็สามารถใช้รายได้จากร้านผ้าม่านมาจุนเจือจนใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่ลำบาก

แต่ไอ้ครั้นจะให้ออกไปกินเงินเดือนแฟน ไอ้เราก็ติดหัวโขน เคยหาเงินได้เดือนละ 6-7 หมื่นจากเงินเดือน จะไปแบมือขอตังค์แฟนก็ใช่ที่

ผมเลยต้องหาอะไรทำให้ตัวเองมีรายได้เพิ่มขึ้นมาบ้าง

ซึ่งตอนนี้ผมก็ทำสติ๊กเกอร์ขายแล้ว แม้จะแค่ set เดียว และได้เงินกลับมาไม่เยอะ แต่ผมคิดว่า นี่แหละ passion ของผม นี่คือสิ่งที่ผมทำแล้ว ทำได้ดีกว่าคนอื่น ผมทำได้ไวกว่าคนอื่น เลยคิดว่าจะยึดหนทางนี้เป็นอาชีพหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองให้ได้ และในเวลาครึ่งปีนี้ ผมก็ต้องทำให้มันงอกเงยเป็นเงินทองที่มากพอจะทำให้ผมมีรายรับเพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง

ตอนที่ผมคิดว่าจะออกปลายปีหน้า (2016) มันก็ยังเอื่อยๆอยู่ ไม่ได้คิดว่าต้องรีบร้อนทำอะไรมากมายนัก

แต่พอมาตอนนี้ คิดว่าจะออกปลายปีนี้ (2015) ทุกสิ่งทุกอย่าง มันทำให้ผมต้องรีบเร่ง และทำมันอย่างจริงจังเพื่อให้มันออกดอกออกผลมากพอจะทำให้ผมเห็นว่า ทุกสิ่งที่ผมทำไป มันได้ผลลัพธ์กลับมาบ้าง ไม่มาก ก็น้อย

ผมเลยคิดว่า จะทำให้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ อีก 190 วัน (6 เดือนกับอีก 1 สัปดาห์) กลายเป็น 190 วันที่มีความหมายที่สุดสำหรับชีวิตลูกจ้างของผม

นั่นคือ

การออกจาก comfort zone ให้ได้ด้วยตัวเอง ภายในระยะเวลาครึ่งปีที่เหลือนี้
ผมจะตั้งใจ ทำทุกอย่าง เหมือนมันเป็น 6 เดือนสุดท้ายของชีวิต
จะตั้งใจ ทำทุกสิ่งอย่าง ให้สำเร็จครบถ้วน ต่อให้ไปไม่ถึงดวงดาว ก็น่าจะพอจับต้องผลลัพธ์อะไรได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนั่นแหละ

ซึ่ง เดี๋ยวผมจะมาแถลงให้ฟังอีกทีนะครับ ว่าเป้าหมายของผมในครึ่งปีนี้ มีอะไรบ้าง

สู้ๆ (บอกตัวเองอย่างนั้น)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น