เคยเจอมั้ยครับ คำถามที่ว่า
"อยากจะเริ่มธุรกิจ"
"อยากมีอะไรเป็นของตัวเอง"
"อยากออกจากงานประจำ"
เชื่อได้เลยว่า
ถ้าใครที่เรียนจบแล้วทำงานได้สักระยะ
จะต้องได้ยินประโยคแนวๆนี้มาบ้างไม่มากก็น้อย
sticker line
จริงๆผมเองก็ไม่ได้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จอะไรมากพอจะมาบอกมาสอนคนอื่นได้หรอกครับ
แต่เพราะว่าผมเองนั้นทำงานประจำมาหลายปีอยู่
ประกอบกับตอนนี้ก็มีธุรกิจที่ทำร่วมกับแฟนเป็นชิ้นเป็นอันแล้ว
ความคิดความอ่านต่างๆ มันเลยก้ำกึ่งกันอยู่ระหว่าง
"ลูกจ้าง" กับ "นายจ้าง"
พอสมควร
ผมต้องทำงานประจำตั้งแต่เช้า ตื่นตั้งแต่ 6 โมงนิดๆ
ออกไปทำงาน ฝ่ารถติดเพื่อเข้างานก่อน 8 โมงเช้า
และเลิกงานตอน 5 โมงเย็น (ซึ่งส่วนมากก็มักจะมีงานค้างจนกลับ 5 โมงตรงไม่ได้) ฝ่ารถติดกลับถึงบ้านอีกรอบ ก็ยังไม่ได้เข้าบ้านครับ ต้องมาช่วยแฟนที่ร้านอีก
อาจจะขนของ ไปเอาของ ไปส่งของ ไปรับของ ไปวัดหน้างาน รอลูกค้าเข้ามาที่ร้าน ฯลฯ
สติ๊กเกอร์ ไลน์
จริงๆคนดำเนินธุรกิจหลักๆคือแฟนผมครับ
แต่ผมก็ช่วยเธอด้วยตามสมควร
ตอนนี้ผมเลยได้เห็นว่า
การจะเริ่มธุรกิจนั้น ไม่ได้ยากมากหรอกครับ
มันแค่เจอ "ปัญหาหลายข้อ" พร้อมๆกัน
จะเปิดร้าน ต้องหาทำเล ราคาเท่าไหร่ เงินเก็บไม่พอ ไหนจะค่าแต่งร้าน ค่าเช่า ค่ามัดจำ ค่าทำสัญญา ลูกจ้างล่ะต้องมีมั้ย จะหาลูกค้ารายแรกๆยังไง คนจะรู้จักร้านเราได้ยังไงบ้าง จะทำการตลาดทางช่องทางไหนดี คู่แข่งเรามีใครบ้าง แล้วมันจะไปรอดมั้ย วันๆนึงจะได้กำไรเท่าไหร่ ถ้าขาดทุนล่ะจะทำยังไง?
คำถามเป็นล้านข้อ ประเดประดังเข้ามาตั้งแต่ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย
จริงๆผมแนะนำว่า
ให้เริ่มตอบคำถามทีละข้อดูก่อนครับ
ถ้าข้อไหนที่จำเป็น ก็ให้ตอบก่อนเลย หาคำตอบให้ได้ครับ ไปทีละข้อๆ
อย่าลืมว่า ถ้ามันยังเป็น project อยู่ในหัวเรา มันก็ยังไม่ต้องเสียตังค์ครับ
ข้อสำคัญที่สุดที่ผมรู้สึกได้ก็คือ
สติ๊กเกอร์ น่ารัก
1. เงินทุน จะหาจากไหน เรามีพอหรือเปล่า งบประมาณทั้งหมดที่จำเป็นคือเท่าไหร่ ลดได้อีกมั้ย อะไรไม่จำเป็นอีก ตัดออกไปก่อน ดูเอาความจำเป็นตั้งต้นเป็นหลัก และเรามีงบสำรองมั้ย
ไม่ใช่ว่าเก็บได้ทั้งชีวิต 3 แสน เอาไปลงหมดเลย 3 แสน ไม่พอมันจะลำบากนะครับ เวลาต้องหาเงินมาหมุนก่อน กว่าจะเก็บตังค์จากลูกค้าได้ แสนสาหัสนะครับ
2. การตลาด เราจะหาลูกค้าจากไหน แน่นอนครับ เปิดร้านมันก็เหมือนตั้งรับ มีหน้าร้าน มีลูกค้า walk in แต่ความเป็นจริงแล้ว เราจะ approach ลูกค้าได้จากทางอื่นทางไหนบ้าง เรื่องนี้ต้องคิดให้ดีครับ ถ้ายังหาลูกค้าไม่ได้ หรือยังประเมินตลาดไม่ได้ อย่าเพิ่งใจร้อนทำอะไรลงไปเชียวครับ ลองตลาดให้ได้ก่อน ค่อยว่ากัน
3. คุณภาพของสินค้าหรือบริการ ต้องมั่นใจนะครับ ว่าเราสามารถต่อกรกับคู่แข่งในตลาดได้ ที่สำคัญ ต้องมีความสามารถในการเพิ่ม "ระดับของคุณภาพ" ด้วย อย่าเอาเงินไปลงๆๆๆ แล้วก็ปล่อยให้มันมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆเหมือนเสือนอนกิน มันไม่ได้หรอกครับ จะกลายเป็นเสือนอนตายเสียมากกว่า เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะธุรกิจอะไร ต้องลงไปคลุกวงในกับมันก่อนครับ คลุกให้หมด เอาให้ครบทุกลูก เวลาผ่านไปมันจะกล่อมเกลาเราเอง ให้กลายเป็น "กูรู" เฉพาะทาง ทีนี้ ก็จะ "มีของ" เอาไว้ป้องกันตัวเองจากลูกค้ากวนๆหรือคู่แข่งแสบๆได้ดีขึ้นครับ
จำไว้นะครับ
การจะเริ่มต้นธุรกิจ จริงๆมันไม่ได้ยากอะไร
แต่ต้องวางแผนดีๆครับ อะไรคือเท่าไหร่ อะไรต้องเป็นยังไง ต้องวางให้ครบ เอาให้เป๊ะที่สุด แม้ความเป็นจริงมันจะหลุดไปบ้าง แต่พลาดดวงจันทร์ ก็ยังอยู่ท่ามกลางดวงดาวนะครับ
ขอแค่อย่ายอมแพ้ ทำอะไรทำให้สุด แล้วจะพบว่า มันมีช่องทางให้เราเดินต่อเสมอ เจอทางตัน ก็แค่อ้อม ขุด ปีนข้าม หรือแม้แต่ย้ายเส้นทางเดิน เราทำได้หมดครับ
อย่าเอาแต่ "คิด" แล้วไม่ได้ทำ
สุดท้าย รู้สึกตัวอีกที ก็ผ่านไปปีนึงอีกและ
ชีวิตยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
ลำบากนะครับ แบบนั้น
สติ๊กเกอร์ Line
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น