วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

จิตสำนึกความปลอดภัยในองค์กร กับ ความสามารถด้านบริหารจัดการของตำรวจจราจร


หัวเรื่องเหมือนจะเกี่ยวกันนะ แต่รายละเอียดผมว่าค่อนข้างจะห่างกันพอดู

เรื่องแรก จิตสำนึกในองค์กรผม จากผู้บริหารแผนกความปลอดภัย ที่มีแนวคิดเรื่องการลดความเสี่ยงและอันตรายในการทำงาน โดยการให้เจ้าหน้าที่หลายๆคน ไปยืนดักที่ทางเข้าออกของพนักงาน แล้วตรวจสอบพนักงานที่ไม่สวมหมวกกันน็อคตอนขับขี่จักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์

ผมว่า แรกๆมันก็ดีอ่ะนะ

แต่ทำมาได้สักพัก มานั่งคิด "ประโยชน์มันคืออะไรอ่ะ?" แล้ว "ทำไปเพื่ออะไร?"

คำถามเหล่านี้ผมไม่เคยได้คำตอบ

ยิ่งก่อนหน้านี้ (จนถึงตอนนี้ก็ยังทำอยู่) มีกิจกรรมที่ให้ผู้บริหารทั้งคนไทยและญี่ปุ่น ไปยืนใส่สายสะพายเหมือนนางงาม เขียนว่า "Safety First" แล้วก็กล่าวทักทายพนักงานที่เดินเข้ามาในบริษัท เพื่อเพิ่ม "จิตสำนึกด้านความปลอดภัย" ให้กับพนักงาน

แรกๆผมก็ว่าโอเคนะ เป็นสีสันดี

แต่พอทำไปสักพัก

เฮ้ย มันมีประโยชน์มั้ยเนี่ย ทำแล้ว อุบัติเหตุลดลงเหรอ? หรือยังไง? ผลดีมันคืออะไร ทำแล้วได้อะไร ใครประเมินผลลัพธ์หรือผลตอบแทนมันได้บ้างเนี่ย?

ผมมีคำถามอีกเยอะแยะมากมายที่อยากให้มีใครสักคนมาตอบผมบ้าง

แต่ก็แน่นอนล่ะ

ไม่มีใครตอบได้

ดูเหมือนว่า การทำอะไรหลายๆอย่างที่บริษัทผมนี้ จะทำไปเพียงเพื่อให้ "คนเห็นว่าทำ" ส่วนผลลัพธ์ จะประเมินมันได้หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่อง Safety นั้น ไม่จำเป็น

เอาสิ
เอากะเขา

ส่วนเรื่องการจราจร
ที่อยากบ่นนี่ไม่ใช่อะไรหรอกครับ

เมื่อเช้า ขับรถมาทำงาน
ออกเวลาเดิม รู้ว่าไม่สายแน่ๆ

แต่ก็เจอรถติดแบบมหาประลัย
ไฟแดงแต่ละแยกนี่ นานมากๆ

เลยรู้เลยว่า การบริการจราจรของตำรวจไทยนั้น ไม่เหมือนต่างประเทศ

ที่จะมีศูนย์ควบคุมจัดการการจราจรบนท้องถนนในแต่ละเขตอย่างชัดเจน มีกล้องวงจรปิด และกล้องจากดาวเทียม ที่จะบอกว่า อัตรารถในแต่ละช่องทางและทิศทางนั้นมีมากขึ้นหรือน้อยลงอย่างไร ช่องไหนควรเพิ่มเวลาให้กี่วินาที ช่องไหนควรลด

ซึ่งที่ไทยนั้นไม่มีครับ

หลายๆทางแยก ผมเห็นไฟแดงที่ปล่อยให้รถน้อยๆวิ่งกัน แต่รถเยอะๆหยุดรอหลายนาทีมากๆ

ผมติดไฟแดงที่ไม่น่าติด 2 จุด จุดละเกือบ 10 นาที
โดยที่ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมตู้ป้อมตำรวจตรงสี่แยกถึงปล่อยเวลาอย่างไม่เป็นมาตราฐานแบบนี้ได้

รถติดแค่ไหน ไม่มีใครรู้ ปลายทางของรถติด อยู่ตรงไหน ไม่มีใครเห็น

ผมเลยเริ่มรู้สึกได้เรื่อยๆแหละว่า เวลาที่เราเห็นรถติดแล้วมีตำรวจมาโบกให้ตรงสี่แยกน่ะ จริงๆตำรวจไม่ได้มาช่วยนะ แต่ผมว่า มาทำให้รถติดหรือเปล่า อันนี้น่าสงสัยจริงๆครับ

เพราะตำรวจที่โบกรถตรงสี่แยกนั้น ก็ไม่สามารถเห็นได้ว่า ปลายหางของขบวนรถในแต่ละช่องทางนั้นอยู่ไกลออกไปแค่ไหนแล้ว เห็นว่ารถมี ก็โบกให้ไปต่อ ส่วนทางที่รอ ก็รอต่อไป ทำไม ในต่างประเทศ ผมเห็นตำรวจ จะออกมาโบกรถก็ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทำให้การสัญจรติดขัดเท่านั้น

แต่เมืองไทย พอรถเยอะเข้าหน่อย ตำรวจต้องออกมาโบกรถเองละ อันนี้ไม่เข้าใจจริงๆครับ

ในเมื่อรถไม่มีชนกัน ถ้าเราบริหารจัดการให้ดี ก็น่าจะไม่ทำให้รถติดมาก หรือถ้าจะติดจริงๆ ก็ต้องติดพอๆกัน เท่าๆกันหรือเปล่า

อันนี้ไม่มีความรู้ครับ สังเกตุเอาล้วนๆ

รู้แค่อย่างเดียว

ประเทศไทย คำนวนเวลาในการขับรถจริงๆจังๆไม่ได้หรอกครับ

เพราะไฟแดงมันใช้คนกด ไม่ได้ใช้โปรแกรมนี่นา เนอะ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น