ไปๆมาๆ ผ่านไปจนเหลือแค่ 120 วันแล้ว นี่ยังไม่นับว่าผมจะลางานช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือน ธค.อีกนะเนี่ย
อะไรๆหลายๆอย่างก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จหรือคืบหน้าไปเท่าไหร่เลย
ทั้งเรื่อง Stock Vector ที่ก็ยังไม่ได้เริ่มเท่าไหร่
ทั้งเรื่อง Affiliate ClickBank ที่ตอนนี้ก็พับโปรเจคเงียบยาวไปแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้เริ่มอีกมั้ย
หรือแม้กระทั่งการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาสักอัน เพื่อช่วยโปรโมตร้านค้าออนไลน์ของเราเอง
นี่ยังไม่รวมเรื่องการเตรียมสร้างเพจและเว็บไซต์สำหรับครีม Avial แบรนด์ใหม่ของตัวเองกับแฟนอีก
การทำงานประจำไปด้วย เลิกงานกลับมาทำงานส่วนตัวไปด้วยนี่มันยากจริงๆ
ไม่ได้ยากที่งานเยอะนะ แต่ยากที่ พอเรากลับมาถึงบ้าน เราก็อยากพักอ่ะ นั่งหน้าคอมแล้วก็อยากดูนั่นดูนี่เต็มไปหมด ไอ้นั่นก็อยากรู้ ไอ้นี่ก็อยากอ่าน ไปๆมาๆ ผ่านไปหนึ่งวัน ไม่มีอะไรคืบหน้าเท่าไหร่เลย
ความเปลี่ยนแปลงในบริษัท ก็เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่ก็เพิ่งมีคำสั่งว่า หัวหน้าเก่า ที่เป็น GM Production ก็กำลังจะกลับสิ้นเดือนนี้
หัวหน้าคนนี้เป็นคนที่ทำให้เราอยากลาออกจริงๆจังๆครั้งแรกเมื่อ 2 ปีก่อน
เนื่องด้วยเพราะรู้สึกว่า การทำงาน แนวคิด หลักการบริหาร เราเดินมาถึงจุด "สวนทาง" กันแล้ว
วิธีในการควบคุมจัดการของผม ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของหัวหน้าคนนี้ได้
และการทำตามคำสั่งแบบไม่ลืมหูลืมตา ผมเองไม่คิดว่ามันจะแก้ปัญหาอะไรได้
ประกอบกับการอิ่มตัวในหน้าที่การงานและวิถีชีวิตหลายๆอย่าง
และแฟนก็เห็นด้วยที่ผมนั้นดูเหนื่อยหน่ายและเครียดเหลือเกิน
เราจึงตกลงกันว่า จะให้ผมลาออกมาก่อน แล้วค่อยหางานทำ
ซึ่งตอนนั้นผมไม่รู้ว่า แฟนผมเขามีภาระอะไรหลายๆอย่างอยู่ด้วยเหมือนกัน
เพิ่งมารู้ทีหลัง ว่าเธอมีภาระทางครอบครัวมากมายเหลือเกิน ที่ไม่ได้บอกผม
แต่หลังจากผมแจ้งลาออก ทางผู้บริหารญี่ปุ่น ก็ได้คุยกันและสั่งย้ายผมมายังแผนก IE ที่ผมอยู่ตอนนี้
ตอนนั้นผมกะว่า จะอยู่ต่อถึงแค่สิ้นปี แล้วก็จะลาออก เพราะไม่ได้อยากทำต่อแล้ว ใจมันหมดแล้ว
แต่พออยู่ๆไป ไปๆมาๆ ผมกลับอยู่ต่อมาจนถึงเกือบ 3 ปีได้
เพราะหัวหน้าใหม่ของผมนั้นเรียกว่า "ถูกโฉลก" กับผมหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ไม่วุ่นวาย ไม่หือไม่อืออะไรทั้งสิ้น
มองในแง่ดี มันก็คือสบายตัวสบายใจ
มองในแง่ร้าย ก็คือ มันสร้างให้เราอยู่ใน Comfort Zone แบบถอนตัวได้ยากเหลือเกิน
และหลังจากที่หัวหน้า IE ผมกลับญี่ปุ่นไป
หัวหน้าคนใหม่เข้ามา
เราก็ได้รู้ว่า Comfort Zone นั้น สูญหายไปแล้ว
หัวหน้าใหม่มา บ้าพลัง และลุยสร้างผลงานน่าดู
แต่เพราะเขายังไม่เคยบริหารแผนกนี้แม้แต่น้อย (สายงานเก่าเขาคือสายงานคนละด้านกับ IE เลย)
ก็เลยทำให้เราค่อนข้างทำงานลำบาก
และเขาก็แตกต่างกับหัวหน้าคนก่อนพอควร
ความช่วยเหลือที่มีให้เรานั้นน้อยลง และไม่สามารถ Support อะไรเราได้เท่าไหร่นัก ถ้าเทียบกับหัวหน้าคนก่อนหน้านี้
แต่ก็เอาเหอะ
ผมตัดสินใจแล้วว่า จะอยู่ถึงแค่สิ้นปี
ร้านผ้าม่านที่ทำกับแฟน ก็เดินทางมาได้จนเรียกว่า "อยู่ตัว" ระดับหนึ่ง
เราเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ใน 20% ที่สามารถพาธุรกิจตัวเราเองผ่านปีแรกมาได้
และถ้าเราสามารถพามันผ่าน 3 ปีไปได้ เราก็จะกลายเป็น 5% ส่วนน้อย ที่สามารถอยู่ในวงจรธุรกิจได้
ซึ่งนั่นก็คือ เราจะกลายเป็นธุรกิจที่มีความสามารถมากกว่าธุรกิจทั่วไปนั่นเอง
หลังจากนี้ ผมคงต้องขยันมากขึ้น
ต้องอดทนมากขึ้น
เพราะถ้าออกมาจากงานประจำแล้ว
จะทำตัวเหลวแหลก ไร้สาระไปเรื่อยๆไม่ได้
นั่นคงไม่ต่างอะไรกับการเกาะเมียกิน
ผมต้องสร้างพอร์ต Stock Vector
และเพิ่มจำนวน Sticker ในไลน์ให้ได้
นั่นคืองานของผม
คือพันธกิจของผม
คือ Passion ของผม
ผมว่า ผมเลือกไม่ผิดอีกแล้วล่ะ
Facebook.com/pages/ระบายศรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น